พระพุทธเจ้า (Buddha)

พระพุทธเจ้า ทรงมีพระนามเดิมว่าเจ้าชาย “สิทธัตถะ” หมายถึง ผู้ที่สำเร็จความมุ่งหมายแล้ว หรือผู้ปรารถนาสิ่งใด ย่อมได้สิ่งนั้น ทรงเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะ ซึ่งกษัตริย์ผู้ครองกรุงกบิลพัสดุ์ แคว้นสักกะ และ “พระนางสิริมหามายา” พระราชธิดาของกษัตริย์ราชสกุลโกลิยวงศ์แห่งกรุงเทวทหะ แคว้นโกลิยะ

ตรัสรู้

พระองค์ทรงประทับนั่งสมาธิ ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งคือ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ (ต้นโพธิ์) ณ อุรุเวลาเสนานิคม เมืองพาราณสี หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก และตั้งจิตอธิษฐานด้วยความมุ่งมั่นและ แน่วแน่ว่าตราบใดที่ยังไม่บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ ก็จะไม่ลุกขึ้นและออกจากสมาธิ แม้จะมีเหล่ามารเข้ามาขัดขวางอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ต้องพ่ายแพ้พระบารมีของพระองค์ จนเวลาผ่านไปในที่สุดพระองค์ทรงบรรลุรูปฌาณ คือ

ยามต้น หรือปฐมยาม ทรงบรรลุปุพเพนิวาสานุสติญาณ คือ สามารถระลึกชาติได้

ยามสอง ทางบรรลุจุตูปปาตญาณ (ทิพยจักษุญาณ) คือ รู้เรื่องการเกิด การตายของสัตว์ทั้งหลาย ทั้งปวง ว่าเป็นไปตามกรรมที่กำหนดไว้

ยามสาม ทรงบรรลุอาสวักขยญาณ คือ ความรู้ที่ทำให้สิ้นอาสวะ หรือกิเลส ด้วยอริยสัจ 4 ได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค และได้ตรัสรู้ด้วยพระองค์เองเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นศาสดาเอกของโลก วันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ ตรงกับวันเพ็ญเดือน 6 ขณะที่มีพระชนม์ได้ 35 พรรษา และได้เผยแผ่ คำสอนต่าง ๆ ตกทอดมาถึงปัจจุบันนี้

Eng.

All that we are isresultof what we have thought. The mind is everything. What we think we become

Thai

สิ่งที่เราเป็นคือผลพวงจากความคิดเราเอง ทุกอย่างอยู่ที่ใจ เราก็เป็นไปตามที่ใจเราคิด