Sonos จัดดีลไซเบอร์ต่อ! ลดสูงสุด 25% ลำโพง Soundbar และ Subwoofer Recertified

โอกาสทองสำหรับคนรักเสียงเพลง! ในช่วงวันอังคารและพุธนี้ ผู้สนใจสามารถเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ Sonos คุณภาพสูงในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นลำโพงอัจฉริยะ Soundbar หรือ Subwoofer ที่ผ่านการรับรองคุณภาพแล้ว

หนึ่งในดีลน่าสนใจคือ Sonos Era 100 Smart Speaker ซึ่งปกติมีราคา 219 ดอลลาร์ แต่รุ่น Recertified เหลือเพียง 134 ดอลลาร์เท่านั้น ลำโพงรุ่นนี้เป็นที่นิยมและใช้งานได้หลากหลาย แม้มีขนาดกะทัดรัด แต่ก็อัดแน่นด้วยทวีตเตอร์สองตัว, มิดวูฟเฟอร์หนึ่งตัว และแอมพลิฟายเออร์ Class-D สามตัว ให้เสียงที่แม่นยำไร้การบิดเบือนแม้ในระดับเสียงที่สูง พร้อมไมโครโฟนในตัวเพื่อฟังก์ชันอัจฉริยะ

สำหรับคอภาพยนตร์ Sonos Arc Soundbar เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด เนื่องจาก Sonos ไม่ค่อยลดราคาผลิตภัณฑ์เรือธงรุ่นนี้บ่อยนัก แม้ Sonos Arc จะถูกแทนที่ด้วย Arc Ultra ไปแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นลำโพงที่ยอดเยี่ยมและคุ้มค่ากว่า Arc Ultra ที่ไม่มีส่วนลดและมีราคา 1,100 ดอลลาร์ Sonos Arc ขนาด 45 นิ้วนี้มาพร้อมลำโพงภายใน 11 ตัว รวมถึงทวีตเตอร์สามตัวและมิดวูฟเฟอร์แปดตัว มอบเสียงที่เต็มห้องและรองรับ Dolby Atmos แท้ด้วยช่องเสียงความสูงทางกายภาพ

ส่วน Sonos Beam (Gen 2) Soundbar เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการ Soundbar ขนาดกะทัดรัด ในราคาเพียง 299 ดอลลาร์ ซึ่งถูกกว่า Arc ถึง 100 ดอลลาร์ Beam (Gen 2) ขนาด 26 นิ้วนี้เป็น Soundbar แบบ 5.0 แชนเนล พร้อมทวีตเตอร์หนึ่งตัวและมิดวูฟเฟอร์สี่ตัว เพื่อเสียงที่เป็นธรรมชาติและสมดุล รวมถึง Passive Radiator สี่ตัวสำหรับย่านเสียงต่ำ และรองรับ Dolby Atmos แบบเสมือน

เติมเต็มประสบการณ์เสียงด้วย Sonos Sub 3 Subwoofer หากต้องการเสียงเบสที่หนักแน่นและลงลึก Sub 3 เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ ด้วยวูฟเฟอร์ขนาด 5"x8" สองตัวที่หันเข้าด้านในและการออกแบบแบบมีพอร์ต ช่วยให้ได้เสียงเบสที่ดังและลึกยิ่งขึ้น

ทำไมต้อง Sonos? หากคุณกำลังมองหาโซลูชันง่ายๆ ในการเพิ่มคุณภาพเสียงในบ้าน Sonos คือคำตอบ ด้วยลำโพงที่ติดตั้งง่าย ไม่เปลืองพื้นที่ และที่สำคัญที่สุดคือให้เสียงที่คมชัดไร้การบิดเบือนและเต็มห้อง แม้จะมีราคาสูงกว่าตัวเลือกทั่วไป แต่คุณภาพเสียงนั้นเทียบเท่ากับลำโพงที่มีราคาสูงกว่ามากหรือกินพื้นที่มากกว่าหลายเท่า


🔗 อ่านบทความฉบับเต็ม: ign

“Virtual height channels” สำหรับ Dolby Atmos เนี่ยนะ? มันคือการเอาซอฟต์แวร์มาหลอกให้ฟังดูเหมือนมี แต่ประสิทธิภาพจริงคงไปไม่ถึงหรอก
ดีไซน์แบบนี้มันคือการใช้ workaround ชัดๆ ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่แก่นแท้ด้วยฮาร์ดแวร์จริง จ้างวิศวกรมาออกแบบใหม่เถอะ.